Home/บริการศัลยกรรม/ศัลยกรรมขากรรไกร
KR SURGERY AGENCY ศัลยกรรมขากรรไกร

ศัลยกรรมจากแพทย์ไทยและเกาหลี

ศัลยกรรมขากรรไกร

ราคาเริ่มต้นที่

1,390.00 ฿

ตัวเลือกศัลยกรรม

Length

10 Days / 9 Nights in a 5 star hotel

Highlights

Sightseeing ● Air Tickets ● Private Travel Group

Key Information

Discover 500 year-old history, Enjoy favorite activities, Flat & flexible riding

อยากเสริมจมูกให้สวยปัง ตั้งแต่ครั้งแรก ต้องรู้ข้อมูลเหล่านี้ก่อน

จะเสริมจมูกทั้งที อย่าลืมหาข้อมูลเยอะๆ เพื่อความสวยจบตั้งแต่ครั้งแรก ไม่เกิดการแก้ไขซ้ำ สิ่งที่เราต้องรู้ไม่ใช่เพียงแค่หมอไหนทำสวย แต่ต้องหาข้อมูลให้ลึกเพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีตรงใจ เช่น วิธีผ่าตัด วัสดุที่ใช้ เคสหลุด ความปลอดภัยต่างๆ การเตรียมตัวก่อนหลัง รวมถึงราคาที่คุ้มค่าต่อการเสริมจมูกของเรา

สามารถหาข้อมูลได้ตามนี้ค่ะ

เสริมจมูกมีกี่เทคนิค ? แล้วแบบไหนที่เหมาะกับเรา?

เสริมจมูก มี 2 เทคนิค คือ แบบปิด (Closed Technique) กับแบบเปิด (Open Technique) มีความแตกต่าง และความจำเป็นในการผ่าตัดแต่ละแบบ ดังนี้

เทคนิค ศัลยกรรมจมูกแบบปิด
(Closed Technique)
ศัลยกรรมจมูกแบบเปิด
(Open Technique)
วิธีผ่าตัด เป็นการเสริมความสูงตั้งแต่สันจมูกไปจนถึงปลายจมูก โดยซิลิโคนจะวางอยู่เหนือกระดูกอ่อน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโครงสร้างจมูก เป็นการเสริมสันจมูกไปพร้อมการผ่าตัดตกแต่งแก้ไขโครงสร้างจมูก เพื่อให้ศัลยแพทย์เห็นปัญหาภายในได้ทั้งหมด และแก้ไขได้ถูกจุด
ตำแหน่งเปิดแผล แผลจะซ่อนอยู่ด้านในรูจมูกด้านหนึ่ง หรืออาจจะสองด้านแล้วแต่เทคนิคศัลยแพทย์

เปิดแผลบริเวณใต้ฐานจมูก กรีดเป็นแนวดิ่ง อาจทำให้เห็นรอยแผลชัดในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปรอยจะจางลง จนแทบไม่เห็น

เหมาะกับใคร คนที่มีสันจมูกแบน ต้องการเสริมซิลิโคนอย่างเดียว หรืออาจเสริมปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหูพร้อมกัน คนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูก ได้แก่ จมูกสั้น
ทู่ ,งุ้มลง,คด,เอียง,เบี้ยว,สันจมูกนูนโก่ง,สันจมูกกว้าง หรือเคสในเคสแก้จมูก
ขั้นตอนผ่าตัด เปิดแผลบริเวณขอบรูจมูกประมาณ 1 ซม. เพื่อสร้างช่องว่างใต้เยื่อหุ้มกระดูก แล้วใส่แท่งซิลิโคนวางตามแนวสันจมูก อาจทำร่วมกับการรองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อเทียม กรีดแผลใต้ฐานจมูกและกรีดเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูก และทำการปรับแต่งโครงสร้างกระดูกจมูก จากนั้นวางวัสดุเสริมบริเวณสันจมูก เช่น ซิลิโคน กระดูกซี่โครง เนื้อเยื่อก้นกบ หรืออื่นๆที่ศัลยแพทย์แนะนำ ร่วมกับการตกแต่งปลายจมูก เช่น กระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก เป็นต้น
ข้อดี ไม่มีแผลเป็นใดๆให้เห็น หลังผ่าตัดบวมช้ำน้อย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ไม่ต้องดมยาสลบ เป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาจมูกได้ถูกจุดมากที่สุด
ระยะเวลาผ่าตัด ประมาณ 45-60 นาที ประมาณ 1-3 ชม.
การระงับความรู้สึก ใช้ยานอนหลับ ร่วมกับยาชา ไม่ต้องนอนแอดมิด เพียงแค่นอนพักหลังทำ 1 ชม.ก็กลับบ้านได้ ใช้การดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ต้องนอนแอดมิดที่โรงพยาบาล 1-2 คืนตามแพคเกจ
ระยะเวลาพักฟื้น บวมช้ำ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เข้าที่ 3-6 เดือน บวมช้ำ 2-3 สัปดาห์ เข้าที่ 3-6 เดือน
ความนิยม เป็นเทคนิคที่นิยมในไทย แต่ไม่นิยมในเกาหลี เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากในเกาหลีและเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในไทย
ราคา เริ่มต้น 15,000 บาท (แล้วแต่การเลือกซิลิโคน) เริ่มต้น

ลักษณะปัญหาของจมูกแต่ละแบบ และการแก้ไข

แบ่งปัญหาเป็น 2 แบบ คือ ปัญหาที่สันแกนจมูกและปลายจมูก กับ ปัญหาที่โครงสร้างจมูก ลองตรวจเช็คดูว่า เรามีปัญหาแบบไหนกันนะคะ

ปัญหาที่สันแกนจมูกและปลายจมูก

  1. จมูกแบน ลักษณะรูจมูกจะดูกลมและบานออกไปข้างๆ ปลายจมูกดูไม่โด่ง แก้ไขโดยทำให้สูงหรือพุ่งขึ้น มักทำร่วมกับการศัลยกรรมปลายจมูก ทำให้ปลายดูเชิดและเรียวมากขึ้น เป็นการศัลยกรรมจมูกแบบทั่วไป ซึ่งสามารถใช้วิธีเสริมจมูกแบบปิดได้ (Closed Technique)
  2. จมูกทู่ ลักษณะคือ จมูกที่มีความแบนและปลายจมูกกว้างบานออกร่วมด้วย เนื่องจากมีเนื้อตรงปลายเยอะเกินไป หรือมีขนาดของกระดูกอ่อนปลายจมูกใหญ่มาแต่กำเนิด จมูกแบบนี้แก้ไขโดยการเสริมจมูกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเสริมจมูกแบบเปิด (Open Technique) เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างด้วย
  3. จมูกแบบลูกศร(จมูกงุ้ม) เป็นจมูกที่กระดูกอ่อนยาวเกินไป และชี้ลง การแก้ไขจะผ่าตัด open ลดความยาวของกระดูกอ่อนในส่วนปลายจมูกแล้วทำการดึงให้ปลายพุ่งขึ้น
  4. ปีกจมูก ที่มีปัญหาเนื้อปีกจมูกยื่นออกมาด้านข้าง ทำให้ดูบาน มีหลายวิธีแก้ไข อาทิ
    • คนที่ปีกจมูกกว้าง ยาว และยื่นออกมาด้านข้างมากๆ หมอจะตัดปีกจมูกให้สั้นลง ตัดเนื้อส่วนที่ชิดกับฐานปีกจมูกออก แล้วดึงให้ชิดกัน จากนั้นเย็บด้วยไหม
    • คนที่มีฐานแกนปีกจมูกกว้าง ทำให้ปีกจมูกดูใหญ่ หมอจะไม่ได้ตัดตรงส่วนปีกด้านข้างออกแต่จะตัดตรงฐานด้านใน เพื่อดึงให้ปีกจมูกขยับเข้าหากันมากขึ้น

ปัญหาที่โครงสร้างจมูก ที่ต้องทุบกระดูกให้แยกจากกัน แล้วทำการปรับแต่งรูปร่างของกระดูกใหม่

  1. กระดูกสันจมูกนูนโก่ง หรือที่เรียกว่า ฮัมพ์ (Hump nose) หากไม่แก้ไขตรงนี้แล้ววางซิลิโคนเลย ก็จะทำให้ซิลิโคนดูโดดออกมา หรือตัวซิลิโคนยึดกับแกนจมูกได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากกระดูกมันนูนโก่ง ซิลิโคนก็อาจเคลื่อนที่ หรือเบี้ยวได้ ดังนั้นคนที่มีฮัมพ์ ต้องเหลาออกก่อนจะเสริมจมูกในขั้นต่อไป
  2. กระดูกสันจมูกส่วนบนเว้า หรือต่ำกว่าตรงกลาง ตรงกลางจะนูนโก่งออกมามาก และปลายจมูกก็ทิ่มดิ่งล่าง หมอจะผ่าตัด 3 อย่าง คือ ตัดทุบกระดูกจมูก เสริมซิลิโคน และแก้ปลายดึงให้เชิดขึ้น
  3. กระดูกจมูกคดงอผิดรูป หมอจะผ่าตัดให้กระดูกแยกออกจากกันเป็นซ้ายกับขวา แล้วทำการปรับแต่งรูปร่างของกระดูกทั้งสองข้าง
  4. กระดูกจมูกที่มีสันกว้างเกินไป หมอจะผ่าตัดเลื่อนกระดูกซ้ายขวาให้มาชิดกัน
  5. จมูกที่ผ่านการเสริมมาแล้ว แต่ผลลัพธ์ไม่ดี เช่น ปลายจมูกไม่โด่งพอ สันที่สูงไปหรือต่ำไปซิลิโคนเบี้ยวเอียงปลายจมูกเชิดสูงเกินไป

วัสดุที่ใช้ในการเสริมสันจมูก

ซิลิโคน เป็นวัสดุที่ผลิตจากพลาสติคสังเคราะห์ ที่มีใช้กันจะมีทั้งแบบสำเร็จรูป และแบบเหลาเคสต่อเคส ทั้งนี้จะขอหยิบยกเอาวัสดุที่มีความนิยมมากสุดในการเสริมบริเวณสันจมูก มาพูดคุยกัน คือ ซิลิโคนแบบเหลาค่ะ

ซิลิโคนแบบเหลา สามารถปรับแต่งรูปทรงได้ตามต้องการ และไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหลังใส่ ส่วนอายุการใช้งานของซิลิโคนจะอยู่ไปได้ตลอดชีวิตไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือแก้ไข หากไม่มีปัญหา หรือต้องการเปลี่ยนทรง

ปัจจุบันซิลิโคนเสริมจมูกแบบเหลา ที่ได้รับความนิยมหลักๆมาจาก 3 ประเทศ ดังนี้

  • ซิลิโคนจมูกญี่ปุ่น (Japan Silicone) : วัสดุเกรดมาตรฐานธรรมดา ตัวเนื้อจะมีสีออกเหลือง มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกหนา สามารถเสริมให้โด่งมากๆได้โดยไม่เห็นขอบซิลิโคน ไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกน้อย อาจเสี่ยงทะลุได้
  • ซิลิโคนจมูกอเมริกา (USA Silicone) : วัสดุเกรดมาตรฐานพิเศษ ตัวเนื้อจะมีสีขาว เนียนละเอียด ความนิ่มปานกลาง คุณภาพดี มีความยืดหยุ่นดี เนื้อซิลิโคนที่ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไป ทำให้สามารถเหลาปรับแต่งรูปทรงได้ตามต้องการ เมื่อเสริมเป็นเวลานานจมูกยังคงรูป และไม่มีโอกาสยุบตัว เหมาะกับคนที่มีเนื้อสันจมูกค่อนข้างมาก หรือคนที่มีโครงจมูกยาว จะทำให้จมูกดูมีมิติ
  • ซิลิโคนจมูกเกาหลี (Korea Silicone) : วัสดุเกรดมาตรฐานพรีเมียม ตัวเนื้อจะมีสีเหลือง หรือสีน้ำตาลแดง คุณภาพดีมาก ส่วนโคนและปลายจมูกจะนิ่มและมีความยืดหยุ่นสูง เป็นการเสริมจมูกที่ไม่ได้เน้นให้โด่งมากนัก แต่จะเน้นให้โด่งเป็นธรรมชาติได้รูปทรงสวย เหมาะกับคนที่เนื้อสันจมูกน้อย ปลายจมูกบาง เพื่อป้องกันการทะลุ ซึ่งมักใช้ซิลิโคนร่วมกับรองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อน จะช่วยให้จมูกดูโด่งเป็นธรรมชาติ ซิลิโคนเกาหลี ไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกเยอะและหนา
ลักษณะจมูก ซิลิโคนญี่ปุ่น ซิลิโคนอเมริกา ซิลิโคนเกาหลี
เนื้อสันจมูกเยอะ หนา
เนื้อสันจมูกน้อย
ปลายจมูกบาง

ซิลิโคนที่เหมาะสมกับลักษณะจมูก

วัสดุที่ใช้ในการเสริมปลายจมูก

การเสริมปลายจมูกจะเป็นตกแต่งปลายให้สวยขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่อง ปลายจมูกบาง เนื้อน้อย รวมถึงผู้ที่อยากได้รูปทรงจมูกที่มีความยาวขึ้น พุ่งขึ้น หรือมีปัญหาที่โครงสร้างจมูก การเสริมปลายจะตอบโจทย์ได้ดี ซึ่งวัสดุที่นำมาใช้มีทางเลือกหลากหลาย แบ่งเป็น จากร่างกายตนเอง กับ จากโรงงานผลิต

กรณีที่นำมาจากร่างกายตนเอง อาทิ

  1. เสริมปลายด้วยกระดูกอ่อนของเรา แต่ส่วนที่นำมาใช้จะต้องไม่กระทบต่อการทำงานของร่างกาย เช่น
    • กระดูกอ่อนด้านหลังหู แต่หลังหูจะทำให้รูปร่างใบหูเปลี่ยนไป ศัลยแพทย์ที่เกาหลีจะใช้กระดูกอ่อนด้านในหูแทน
    • กระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูก (Septum Cartilage) เป็นอีกที่ที่นิยมใช้
    • กระดูกซี่โครง จะมีแผลประมาณ 1-2 เซนติเมตร

** ถ้าเรียงความอ่อนจะเป็น : กระดูกหลังหูอ่อนที่สุด ตามด้วยผนังกั้นจมูก และกระดูกอ่อนที่อยู่ตรงซี่โครงเราแข็งแรงที่สุด

  1. เสริมปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อบริเวณก้นกบ เหมาะกับคนที่มีเนื้อตรงจมูกบาง กังวลว่าจมูกจะสะท้อนแสงจนเห็นเป็นแท่งซิลิโคน เราจะไม่เสริมด้วยกระดูก แต่จะเสริมด้วยเนื้อแทน ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

กรณีที่ไม่ได้มาจากร่างกายเรา อาทิ

  1. กระดูกซี่โครงจากการบริจาค นำมาจากกระดูกอ่อนของผู้เสียชีวิต ผ่านกระบวนการตรวจสอบความเหมาะสมก่อนนำมาใช้ศัลยกรรม เหมาะกับคนที่ไม่สามารถผ่าตัดกระดูกซี่โครงได้ ก็เป็นวัสดุที่ใช้สำหรับคนที่ไม่อยากผ่านขั้นตอนเหล่านั้น
  2. Mesh เมื่อใส่เข้าไปในร่างกาย จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์กระดูกอ่อนเข้ามาแทนที่ จะสลายไปเองจึงนำมาใช้ทดแทนกระดูกอ่อนจากร่างกายได้

ตัวอย่างรีวิวศัลยกรรมจมูกในไทย

ค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรมจมูกในไทย

รายการ รพ.ยันฮี รพ.มาสเตอร์พีช รพ.เลอลักษณ์
เสริมสันจมูกแบบ Close เคสทำครั้งแรก 15,000- 28,000 บาท ตามประเภทซิลิโคน
เสริมสันจมูกแบบ Close เคสแก้จมูก 28,500-43,500 บาท
รองปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหู 20,500 บาท
ปรับโครงสร้างจมูก ใช้กระดูกอ่อนซี่โครง 140,000 บาท
เสริมจมูกแบบ Open รวมแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู 70,000 บาท
ตัดปีกจมูก 15,000 บาท

ตัวอย่างรีวิวศัลยกรรมจมูกในเกาหลี

ค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรมจมูกในเกาหลี

รายการ ราคาไทยโดยประมาณ
เสริมสันจมูกโอเพ่นพร้อมแต่งปลายจมูกกระดูกอ่อนหลังหู 160,000 บาท
แก้ไขจมูกยาว/ปลายจมูกยาว 160,000 บาท
แก้ไขจมูกแหงน แก้ไขจมูกอักเสบด้วยซี่โครงตัวเอง 400,000 บาท
แก้ไขเฉพาะปลายจมูก แก้ไขปลายจมูกตก 135,000 บาท

หมายเหตุ : ราคาไม่รวมที่พักที่ต้องอยู่เกาหลี 7 วัน  และตั๋วเครื่องบินไปกลับ งบส่วนนี้ ประมาณ 50,000-60,000 บาท

เสริมจมูกมีกี่เทคนิค ? แล้วแบบไหนที่เหมาะกับเรา?

เสริมจมูก มี 2 เทคนิค คือ แบบปิด (Closed Technique) กับแบบเปิด (Open Technique) มีความแตกต่าง และความจำเป็นในการผ่าตัดแต่ละแบบ ดังนี้

เทคนิค ศัลยกรรมจมูกแบบปิด
(Closed Technique)
ศัลยกรรมจมูกแบบเปิด
(Open Technique)
วิธีผ่าตัด เป็นการเสริมความสูงตั้งแต่สันจมูกไปจนถึงปลายจมูก โดยซิลิโคนจะวางอยู่เหนือกระดูกอ่อน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโครงสร้างจมูก เป็นการเสริมสันจมูกไปพร้อมการผ่าตัดตกแต่งแก้ไขโครงสร้างจมูก เพื่อให้ศัลยแพทย์เห็นปัญหาภายในได้ทั้งหมด และแก้ไขได้ถูกจุด
ตำแหน่งเปิดแผล แผลจะซ่อนอยู่ด้านในรูจมูกด้านหนึ่ง หรืออาจจะสองด้านแล้วแต่เทคนิคศัลยแพทย์

เปิดแผลบริเวณใต้ฐานจมูก กรีดเป็นแนวดิ่ง อาจทำให้เห็นรอยแผลชัดในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปรอยจะจางลง จนแทบไม่เห็น

เหมาะกับใคร คนที่มีสันจมูกแบน ต้องการเสริมซิลิโคนอย่างเดียว หรืออาจเสริมปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหูพร้อมกัน คนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูก ได้แก่ จมูกสั้น
ทู่ ,งุ้มลง,คด,เอียง,เบี้ยว,สันจมูกนูนโก่ง,สันจมูกกว้าง หรือเคสในเคสแก้จมูก
ขั้นตอนผ่าตัด เปิดแผลบริเวณขอบรูจมูกประมาณ 1 ซม. เพื่อสร้างช่องว่างใต้เยื่อหุ้มกระดูก แล้วใส่แท่งซิลิโคนวางตามแนวสันจมูก อาจทำร่วมกับการรองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อเทียม กรีดแผลใต้ฐานจมูกและกรีดเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูก และทำการปรับแต่งโครงสร้างกระดูกจมูก จากนั้นวางวัสดุเสริมบริเวณสันจมูก เช่น ซิลิโคน กระดูกซี่โครง เนื้อเยื่อก้นกบ หรืออื่นๆที่ศัลยแพทย์แนะนำ ร่วมกับการตกแต่งปลายจมูก เช่น กระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก เป็นต้น
ข้อดี ไม่มีแผลเป็นใดๆให้เห็น หลังผ่าตัดบวมช้ำน้อย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ไม่ต้องดมยาสลบ เป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาจมูกได้ถูกจุดมากที่สุด
ระยะเวลาผ่าตัด ประมาณ 45-60 นาที ประมาณ 1-3 ชม.
การระงับความรู้สึก ใช้ยานอนหลับ ร่วมกับยาชา ไม่ต้องนอนแอดมิด เพียงแค่นอนพักหลังทำ 1 ชม.ก็กลับบ้านได้ ใช้การดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ต้องนอนแอดมิดที่โรงพยาบาล 1-2 คืนตามแพคเกจ
ระยะเวลาพักฟื้น บวมช้ำ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เข้าที่ 3-6 เดือน บวมช้ำ 2-3 สัปดาห์ เข้าที่ 3-6 เดือน
ความนิยม เป็นเทคนิคที่นิยมในไทย แต่ไม่นิยมในเกาหลี เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากในเกาหลีและเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในไทย
ราคา เริ่มต้น 15,000 บาท (แล้วแต่การเลือกซิลิโคน) เริ่มต้น

ลักษณะปัญหาของจมูกแต่ละแบบ และการแก้ไข

แบ่งปัญหาเป็น 2 แบบ คือ ปัญหาที่สันแกนจมูกและปลายจมูก กับ ปัญหาที่โครงสร้างจมูก ลองตรวจเช็คดูว่า เรามีปัญหาแบบไหนกันนะคะ

ปัญหาที่สันแกนจมูกและปลายจมูก

  1. จมูกแบน ลักษณะรูจมูกจะดูกลมและบานออกไปข้างๆ ปลายจมูกดูไม่โด่ง แก้ไขโดยทำให้สูงหรือพุ่งขึ้น มักทำร่วมกับการศัลยกรรมปลายจมูก ทำให้ปลายดูเชิดและเรียวมากขึ้น เป็นการศัลยกรรมจมูกแบบทั่วไป ซึ่งสามารถใช้วิธีเสริมจมูกแบบปิดได้ (Closed Technique)
  2. จมูกทู่ ลักษณะคือ จมูกที่มีความแบนและปลายจมูกกว้างบานออกร่วมด้วย เนื่องจากมีเนื้อตรงปลายเยอะเกินไป หรือมีขนาดของกระดูกอ่อนปลายจมูกใหญ่มาแต่กำเนิด จมูกแบบนี้แก้ไขโดยการเสริมจมูกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเสริมจมูกแบบเปิด (Open Technique) เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างด้วย
  3. จมูกแบบลูกศร(จมูกงุ้ม) เป็นจมูกที่กระดูกอ่อนยาวเกินไป และชี้ลง การแก้ไขจะผ่าตัด open ลดความยาวของกระดูกอ่อนในส่วนปลายจมูกแล้วทำการดึงให้ปลายพุ่งขึ้น
  4. ปีกจมูก ที่มีปัญหาเนื้อปีกจมูกยื่นออกมาด้านข้าง ทำให้ดูบาน มีหลายวิธีแก้ไข อาทิ
    • คนที่ปีกจมูกกว้าง ยาว และยื่นออกมาด้านข้างมากๆ หมอจะตัดปีกจมูกให้สั้นลง ตัดเนื้อส่วนที่ชิดกับฐานปีกจมูกออก แล้วดึงให้ชิดกัน จากนั้นเย็บด้วยไหม
    • คนที่มีฐานแกนปีกจมูกกว้าง ทำให้ปีกจมูกดูใหญ่ หมอจะไม่ได้ตัดตรงส่วนปีกด้านข้างออกแต่จะตัดตรงฐานด้านใน เพื่อดึงให้ปีกจมูกขยับเข้าหากันมากขึ้น

ปัญหาที่โครงสร้างจมูก ที่ต้องทุบกระดูกให้แยกจากกัน แล้วทำการปรับแต่งรูปร่างของกระดูกใหม่

  1. กระดูกสันจมูกนูนโก่ง หรือที่เรียกว่า ฮัมพ์ (Hump nose) หากไม่แก้ไขตรงนี้แล้ววางซิลิโคนเลย ก็จะทำให้ซิลิโคนดูโดดออกมา หรือตัวซิลิโคนยึดกับแกนจมูกได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากกระดูกมันนูนโก่ง ซิลิโคนก็อาจเคลื่อนที่ หรือเบี้ยวได้ ดังนั้นคนที่มีฮัมพ์ ต้องเหลาออกก่อนจะเสริมจมูกในขั้นต่อไป
  2. กระดูกสันจมูกส่วนบนเว้า หรือต่ำกว่าตรงกลาง ตรงกลางจะนูนโก่งออกมามาก และปลายจมูกก็ทิ่มดิ่งล่าง หมอจะผ่าตัด 3 อย่าง คือ ตัดทุบกระดูกจมูก เสริมซิลิโคน และแก้ปลายดึงให้เชิดขึ้น
  3. กระดูกจมูกคดงอผิดรูป หมอจะผ่าตัดให้กระดูกแยกออกจากกันเป็นซ้ายกับขวา แล้วทำการปรับแต่งรูปร่างของกระดูกทั้งสองข้าง
  4. กระดูกจมูกที่มีสันกว้างเกินไป หมอจะผ่าตัดเลื่อนกระดูกซ้ายขวาให้มาชิดกัน
  5. จมูกที่ผ่านการเสริมมาแล้ว แต่ผลลัพธ์ไม่ดี เช่น ปลายจมูกไม่โด่งพอ สันที่สูงไปหรือต่ำไปซิลิโคนเบี้ยวเอียงปลายจมูกเชิดสูงเกินไป

วัสดุที่ใช้ในการเสริมสันจมูก

ซิลิโคน เป็นวัสดุที่ผลิตจากพลาสติคสังเคราะห์ ที่มีใช้กันจะมีทั้งแบบสำเร็จรูป และแบบเหลาเคสต่อเคส ทั้งนี้จะขอหยิบยกเอาวัสดุที่มีความนิยมมากสุดในการเสริมบริเวณสันจมูก มาพูดคุยกัน คือ ซิลิโคนแบบเหลาค่ะ

ซิลิโคนแบบเหลา สามารถปรับแต่งรูปทรงได้ตามต้องการ และไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหลังใส่ ส่วนอายุการใช้งานของซิลิโคนจะอยู่ไปได้ตลอดชีวิตไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือแก้ไข หากไม่มีปัญหา หรือต้องการเปลี่ยนทรง

ปัจจุบันซิลิโคนเสริมจมูกแบบเหลา ที่ได้รับความนิยมหลักๆมาจาก 3 ประเทศ ดังนี้

  • ซิลิโคนจมูกญี่ปุ่น (Japan Silicone) : วัสดุเกรดมาตรฐานธรรมดา ตัวเนื้อจะมีสีออกเหลือง มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกหนา สามารถเสริมให้โด่งมากๆได้โดยไม่เห็นขอบซิลิโคน ไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกน้อย อาจเสี่ยงทะลุได้
  • ซิลิโคนจมูกอเมริกา (USA Silicone) : วัสดุเกรดมาตรฐานพิเศษ ตัวเนื้อจะมีสีขาว เนียนละเอียด ความนิ่มปานกลาง คุณภาพดี มีความยืดหยุ่นดี เนื้อซิลิโคนที่ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไป ทำให้สามารถเหลาปรับแต่งรูปทรงได้ตามต้องการ เมื่อเสริมเป็นเวลานานจมูกยังคงรูป และไม่มีโอกาสยุบตัว เหมาะกับคนที่มีเนื้อสันจมูกค่อนข้างมาก หรือคนที่มีโครงจมูกยาว จะทำให้จมูกดูมีมิติ
  • ซิลิโคนจมูกเกาหลี (Korea Silicone) : วัสดุเกรดมาตรฐานพรีเมียม ตัวเนื้อจะมีสีเหลือง หรือสีน้ำตาลแดง คุณภาพดีมาก ส่วนโคนและปลายจมูกจะนิ่มและมีความยืดหยุ่นสูง เป็นการเสริมจมูกที่ไม่ได้เน้นให้โด่งมากนัก แต่จะเน้นให้โด่งเป็นธรรมชาติได้รูปทรงสวย เหมาะกับคนที่เนื้อสันจมูกน้อย ปลายจมูกบาง เพื่อป้องกันการทะลุ ซึ่งมักใช้ซิลิโคนร่วมกับรองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อน จะช่วยให้จมูกดูโด่งเป็นธรรมชาติ ซิลิโคนเกาหลี ไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกเยอะและหนา
ลักษณะจมูก ซิลิโคนญี่ปุ่น ซิลิโคนอเมริกา ซิลิโคนเกาหลี
เนื้อสันจมูกเยอะ หนา
เนื้อสันจมูกน้อย
ปลายจมูกบาง

ซิลิโคนที่เหมาะสมกับลักษณะจมูก

วัสดุที่ใช้ในการเสริมปลายจมูก

การเสริมปลายจมูกจะเป็นตกแต่งปลายให้สวยขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่อง ปลายจมูกบาง เนื้อน้อย รวมถึงผู้ที่อยากได้รูปทรงจมูกที่มีความยาวขึ้น พุ่งขึ้น หรือมีปัญหาที่โครงสร้างจมูก การเสริมปลายจะตอบโจทย์ได้ดี ซึ่งวัสดุที่นำมาใช้มีทางเลือกหลากหลาย แบ่งเป็น จากร่างกายตนเอง กับ จากโรงงานผลิต

กรณีที่นำมาจากร่างกายตนเอง อาทิ

  1. เสริมปลายด้วยกระดูกอ่อนของเรา แต่ส่วนที่นำมาใช้จะต้องไม่กระทบต่อการทำงานของร่างกาย เช่น
    • กระดูกอ่อนด้านหลังหู แต่หลังหูจะทำให้รูปร่างใบหูเปลี่ยนไป ศัลยแพทย์ที่เกาหลีจะใช้กระดูกอ่อนด้านในหูแทน
    • กระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูก (Septum Cartilage) เป็นอีกที่ที่นิยมใช้
    • กระดูกซี่โครง จะมีแผลประมาณ 1-2 เซนติเมตร

** ถ้าเรียงความอ่อนจะเป็น : กระดูกหลังหูอ่อนที่สุด ตามด้วยผนังกั้นจมูก และกระดูกอ่อนที่อยู่ตรงซี่โครงเราแข็งแรงที่สุด

  1. เสริมปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อบริเวณก้นกบ เหมาะกับคนที่มีเนื้อตรงจมูกบาง กังวลว่าจมูกจะสะท้อนแสงจนเห็นเป็นแท่งซิลิโคน เราจะไม่เสริมด้วยกระดูก แต่จะเสริมด้วยเนื้อแทน ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

กรณีที่ไม่ได้มาจากร่างกายเรา อาทิ

  1. กระดูกซี่โครงจากการบริจาค นำมาจากกระดูกอ่อนของผู้เสียชีวิต ผ่านกระบวนการตรวจสอบความเหมาะสมก่อนนำมาใช้ศัลยกรรม เหมาะกับคนที่ไม่สามารถผ่าตัดกระดูกซี่โครงได้ ก็เป็นวัสดุที่ใช้สำหรับคนที่ไม่อยากผ่านขั้นตอนเหล่านั้น
  2. Mesh เมื่อใส่เข้าไปในร่างกาย จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์กระดูกอ่อนเข้ามาแทนที่ จะสลายไปเองจึงนำมาใช้ทดแทนกระดูกอ่อนจากร่างกายได้

แนะนำศัลยแพทย์ตัวท๊อป ในไทย

นายแพทย์ธวัชชัย บุญพัฒนพงศ์

นายแพทย์ธวัชชัย บุญพัฒนพงศ์ แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ประจำ รพ.ยันฮี เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้างจมูก และสไตล์การเสริมจมูกที่เน้นความโด่งเป็นธรรมชาติ ดูสวยละมุน รูปทรงสโลป ทันสมัย

นายแพทย์โชคชัย อมรสวัสดิ์วัฒนา

นายแพทย์โชคชัย อมรสวัสดิ์วัฒนา แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ประจำ รพ.ยันฮี เชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูก

แนะนำศัลยแพทย์ตัวท๊อป ในเกาหลี

  • หมอบังชียอง จมูก รพ. ID
  • หมอลีฮยอนแทก จมูก เน้นทรงธรรมชาติ รพ. Banobagi
  • หมอซอฮยอนอู จมูก ละมุนน่ารัก รพ. Jewelry
  • หมอซอมันกุน ได้รางวัลจมูกอันดับ 1 ของเกาหลี รพ. JW
  • หมอควอน โดฮยอน จมูก รพ. ImageUP
  • หมอฮันจีฮยอน จมูก รพ. Girin

ผลข้างเคียงหลังผ่าตัดเสริมจมูก ที่อาจพบได้

  1. อาการบวม เป็นอาการปกติที่พบได้หลังผ่าตัด ระยะเวลายุบบวมขึ้นอยู่กับเนื้อเยื่อของร่างกายแต่ละคน โดยเฉลี่ยจะบวมมากในช่วง 1- 2 สัปดาห์แรก และจะยุบลงเรื่อยๆจนเข้าที่ใน 3-6 เดือน

สิ่งที่มักจะกังวลและเข้าใจผิดกันมากๆ ในช่วงที่ยังมีการบวมคือ

    • รู้สึกว่าจมูกเบี้ยว เป็นผลมาจากจมูกข้างซ้ายกับขวายุบไม่เท่ากัน ซึ่งช่วงนี้จะยังไม่สามารถบอกแน่ชัดได้ว่าเบี้ยว ต้องรอให้มีการยุบบวมลงอย่างเต็มที่ซึ่งใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน หากมีปัญหาเบี้ยวเอียงจริง ศัลยแพทย์จะผ่าตัดแก้ไขให้ใหม่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
    • รู้สึกว่าสันจมูกสูงเกินไป เป็นผลมาจากความบวมนั่นเอง ซึ่งส่วนนี้ต้องรอยุบประมาณ 1-3 เดือน จะพอเห็นความสูงของสันจมูกที่ศัลยแพทย์ทำได้
  1. อาการช้ำเหลือง หรือม่วงบริเวณใต้ตา และบริเวณข้างเคียง เป็นอาการปกติ ใช้เวลาหายประมาณ 1-2 สัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องรักษาเพิ่มเติม
  2. อาการเลือดออกหลังผ่าตัด ในช่วง 1-2 วันแรก อาจมีเลือดซึมๆจากแผล ถือเป็นอาการปกติ แต่หากไหลไม่หยุด หรือไหลซึมมากกว่า 2 วัน ให้รีบแจ้งศัลยแพทย์ทราบ หรือเข้าไปตรวจก่อนวันนัดหมาย
  3. อาการอักเสบ ติดเชื้อ เช่น อาการปวด บวม แดง ร้อน มีหนองหรือสารคัดหลั่งซึมจากแผล ให้รีบแจ้งศัลยแพทย์ทราบทันที หรือเข้าไปตรวจก่อนวันนัดหมายโดยด่วน
  4. อาการคันบริเวณรูไหม อาจเกิดขึ้นได้ในบางรายซึ่งไหมที่เย็บจะเป็นไหมละลาย แต่เมื่อครบ 1-2 สัปดาห์แล้ว ศัลยแพทย์จะนัดมาตรวจและตัดไหมให้เลยโดยไม่ต้องรอไหมละลายหมด หากมีอาการคัน หรือระคายเคือง สามารถใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆบริเวณที่คัน ห้ามงัดแงะแกะเกาแผล โดยเด็ดขาด

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด เพื่อผลลัพธ์ที่ดี

  1. การงดยา และกลุ่มที่มีโรคประจำตัวต่างๆ ดังนี้
    • งดกลุ่มยาที่มีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโปรเฟน รวมถึงวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม และยาจีน เช่น เหล่งเอี๊ยง หยุนหนานไป๋เหย่า อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
    • งดยาละลายลิ่มเลือด อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด แต่ห้ามหยุดยาเองโดยเด็ดขาด ต้องแจ้งแพทย์เจ้าของไข้รับทราบและเห็นชอบก่อนหยุดยา
    • ผู้ที่มีโรคประจำตัว และทานยาประจำ เช่น เบาหวาน ความดันสูง ไทรอยด์ ไม่ต้องหยุดยา ให้ทานได้ตามปกติ แต่ต้องแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบและนำยาติดตัวมาที่โรงพยาบาลด้วย
    • หากมีแพ้ยา แพ้อาหาร ต้องแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัย
  2. สิ่งที่ต้องงดรับประทาน
    • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสติดเชื้อ และแผลที่อาจหายช้ากว่าปกติ
    • งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 6 ชม. รวมถึง ลูกอม หมากฝรั่ง ชา กาแฟ
  3. การเตรียมร่างกาย
    • งดแต่งหน้า ทาครีม ในวันผ่าตัด
    • เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย และถอดออกสะดวก เช่น เสื้อมีฮู้ด หรือเสื้อเชิตติดกระดุม หลีกเลี่ยงพวกเสื้อยืดคอกลม เพราะหลังผ่าตัดอาจมีการติดเฝือกที่จมูก ทำให้ถอดยาก และอาจกระทบกระเทือนจมูกได้
    • ถอดเครื่องประดับ ของมีค่า ทุกชนิดก่อนเข้าผ่าตัด
    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  4. อื่นๆ
    • เตรียมคนมารับกลับ เนื่องจากห้ามขับรถกลับเองเด็ดขาด
    • เตรียมเจลประคบเย็น นำเกลือล้างแผล ไม้พันสำลี หมอนรองคอ ไว้สำหรับใช้หลังผ่าตัด
ผ่าตัดเล็ก เตรียมตัวอย่างไร
ผ่าตัดดมยาสลบ เตรียมตัวอย่างไร

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมจมูก เพื่อความสวยปัง

  1. เคล็ดลับทำแล้ว ลดอาการบวมและเลือดออกได้
    1. ประคบเย็นบริเวณจมูกให้มากที่สุด ในช่วง 3 วันแรก จะช่วยลดอาการบวมและเลือดออกหลังผ่าตัดได้ดี หลังจากนั้น หากมีรอยช้ำ จะประคบอุ่นหรือไม่ก็ได้ เนื่องจากรอยช้ำจะหายไปได้เอง ภายใน 1-2 สัปดาห์
    2. นอนยกศีรษะสูง ช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นนอนหมอนปกติได้
    3. งดอาหารหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
    4. ควรทานอาหารอ่อนๆ ช่วง 3 วันแรก หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพื่อไม่ให้เกิดการแสบร้อน
  2. เคล็ดลับทำแล้ว แผลดี ไม่มีอักเสบ
    1. ใช้ไม้พันสำลี เช็ดซับเลือดที่อาจซึมออกจากแผล ในช่วง 1-2 วันแรก งดใช้ทิชชู่ สำลี หรือผ้าเช็ด
    2. ใช้ไม้พันสำลี ชุบน้ำเกลือล้างแผล เช็ดทำความสะอาดแผล และป้ายยา ทุกวัน เช้า-เย็น จนกว่าจะไปตัดไหม
    3. งดล้างหน้าโดนน้ำ 5-7 วัน หรือตามคำแนะนำของศัลยแพทย์
  3. เคล็ดลับทำแล้ว จมูกปัง ไม่มีเบี้ยวเอียง
    1. งดนอนคว่ำ นอนตะแคง 1 เดือน อาจใช้หมอนรองคอช่วย ไม่ให้เราเผลอนอนตะแคงหรือคว่ำหน้า
    2. งดการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมใดๆ ที่จะกระทบกระเทือนจมูกเป็นเวลา 1 เดือน เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ชกมวย เดินออกกำลังกายเบาๆได้
    3. หลีกเลี่ยงการใส่แว่นตา เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อไม่ให้จมูกได้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆที่อาจเกิดขึ้นขณะสวมใส่แว่น แต่ถ้ามองไม่เห็นจริงๆ หรือมีเหตุจำเป็นที่ต้องใส่จริงๆ ก็สามารถใส่ได้ แต่ให้ระมัดระวังอย่าให้บาดเจ็บ

ขั้นตอนการจองศัลยกรรมจมูก

กรณีนัดจองผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก ที่ประเทศไทย

  1. นัดปรึกษาแพทย์ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน หรือปรึกษาผ่านไลน์ได้
  2. ควรจองวันผ่าตัดล่วงหน้า 1 เดือน เพื่อให้ได้วันผ่าตัดตามต้องการ กรณีช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาว จะมีคนทำมาศัลยกรรมจำนวนมากมาก ควรจองวันผ่าตัดล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ในการจองสามารถแจ้งวันๆได้โดยไม่ต้องจ่ายมัดจำ
  3. ก่อนวันผ่าตัด 1 วัน พยาบาลพี่โอ๋จะโทรคอนเฟริมนัดหมาย และเน้นย้ำเรื่องการเตรียมตัวมาผ่าตัดในวันรุ่งขึ้น
  4. ในวันผ่าตัด เมื่อมาถึงโรงพยาบาล พยาบาลพี่โอ๋จะเข้าไปให้บริการดูแลแบบ VIP ตลอดขณะปรึกษา ผ่าตัด หลังผ่าตัด และทุกครั้งที่พบหมอ ด้วยการประสานความเข้าใจระหว่างลูกค้า กับศัลยแพทย์ รวมถึงคอยดูแลรักษาผลประโยชน์ให้กับลูกค้าตลอดจนเสร็จสิ้นการรักษา ซึ่งไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมใดๆ
  5. หากต้องการเลื่อนนัด หรือยกเลิกนัด รบกวนแจ้งล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วัน เพื่อยกเลิกห้องผ่าตัด

 

กรณีนัดจองผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก ที่ประเทศเกาหลี

  1. ปรึกษาผ่านไลน์หรือนัดปรึกษาได้ เพื่อพูดคุยเรื่องที่ลูกค้ารู้สึกกังวล พร้อมนำไปปรึกษาศัลยแพทย์ ทั้งราคาและรายละเอียดการผ่าตัด รวมถึงทางเลือกต่างๆให้ประกอบการตัดสินใจ และรอศัลยแพทย์ตอบกลับประมาณ 2 วันทำการ
  2. จองวันผ่าตัด ควรจองวันผ่าตัดล่วงหน้า 1 เดือน
  3. จองตั๋วเครื่องบินและที่พัก ทางเรามีบริการจองไฟล์ทบินที่เหมาะสมและที่พักใกล้เคียงให้โดยไม่มีบริการเพิ่มเติม
  4. ในวันนัดหมาย จะได้พบศัลยแพทย์ เพื่อปรึกษาอย่างละเอียดโดยจะมีพยาบาลพี่โอ๋ และทีมงานล่ามอยู่กับลูกค้าตลอดขณะปรึกษา ผ่าตัด หลังผ่าตัดและทุกครั้งที่พบหมอ

คำถามที่พบบ่อย

ข้อมูลโดย หมอ Seok jun Lee,MD ศาสตราจารย์ ประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโซล

บริการศัลยกรรมที่คุณอาจสนใจ

  • Non mollitia pora autem expedia delects usto qui dolor ipsum accusamus.

  • ก่อนทำศัลยกรรมตา ผ่าตัดถุงใต้ตา ต้องรู้อะไรบ้าง ถุงใต้ตาเกิดจาก “อายุที่เพิ่มมากขึ้น” หรืออาจเกิดจาก “กรรมพันธุ์” โดยปกติร่างกายจะมีถุงไขมันใต้ดวงตา

  • อยากเสริมแก้จมูกให้สวย ต้องรู้ข้อมูลเหล่านี้ก่อน จมูก เบี้ยว เอียง ผิดรูป จมูกพัง ไม่เป็นธรรมชาติ ปลายบางทะลุ อักเสบติดเชื้อเกิดขึ้นได้อย่างไร? และจะแก้ไขอย่างไร?